ศึกบิ๊กแมตช์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถล่มยับ มาร์กเซย 4-0 หนีห่างรั้งจ่าฝูง

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ฟอร์มทีมสุดยอดหลังเปิดบ้านไล่ถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย ไปแบบขาดลอย 4-0 โดยสกอร์ทั้งสี่ลูกเกิดขึ้นในครึ่งเวลาแรกจาก เมาโร อีการ์ดี้ และคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้  ที่เหมาคนละสองประตู พาทีมซิวสามแต้มพร้อมนำจ่าฝูงมี 27 คะแนน โดยหนี น็องต์ อันดับสองถึง 8 คะแนน ในศึกบิ๊กแมตช์ ลีก เอิง
สนาม : ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ 
ศึกฟุตบอล ลีก เอิง นัดที่ 11 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมจ่าฝูงคว้าชัยมาสามเกมติดต่อกัน ล่าสุดบุกไปถล่ม นีซ 4-1 เกมนี้รับมือโอลิมปิก มาร์กเซย ทีมอันดับ 7 ที่เกมล่าสุดเพิ่งเอาชนะ สตราส์บูร์ก 2-0 คว้าชัยนัดแรกในรอบ 5 เกม
ครึ่งแรก เริ่มเกมมาได้แค่ 10 นาที เจ้าบ้านชิงขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว บอลจาก อังเคล ดิ มาเรีย โยกหลอกก่อนเปิดด้วยซ้ายไปเสาไกลให้ เมาโร อีการ์ดี้ เทกตัวโขกเต็มหัวแม้จะโดน สตีฟ ม็องด็องด้า เซฟไว้จังหวะแรกแต่จังหวะต่อมา อีการ์ดี้ ยังเร็วตามไปซ้ำไว้ได้ ให้ เปแอสเช ชิงขึ้นนำ 1-0 นาที 23 เจ้าถิ่นเกือบได้เม็ดที่สองตามมา หลัง มาร์โก แวร์รัตติ แย่งบอลได้ก่อนเลยมาถึง  คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จ่ายไขว้ขาอย่างเหนือชั้นให้ เมาโร อีการ์ดี้ หลุดไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปติดเซฟของ ม็องด็องด้า อย่างเหลือเชื่อ
และรอไม่นาน อีก 4 นาทีถัดมา เปแอสเช ขยับหนีออกไปเป็น 2-0 มาร์โก แวร์รัตติ ตักบอลข้ามหัวกองหลังไปให้ เมาโร อีการ์ดี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปโขกบอลผ่าน สตีฟ ม็องด็องด้า เป็นประตูที่สองของอดีตหอกอินเตอร์ มิลานในเกมนี้ เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ปารีสฯ หนีไปไกล 3-0 และเป็น อังเคล ดิมาเรีย ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นผ่านออลเลียดไปเสาสองให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยิงโล่งๆ เข้าไป ก่อนจบครึ่งแรกแค่นาทีเดียว ดิ มาเรีย ดีดบอลทะลุแนวรับให้ เอ็มบั๊ปเป้ กระชากหนีแนวรับมาร์กเซยก่อนจะกดด้วยขวาบอลพุ่งผ่านปลายนิ้วของ สตีฟ ม็องด็องด้า เข้าไป
จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หนี โอลิมปิก มาร์กเซย 4-0
ครึ่งหลัง นาที 70 เจ้าบ้านพลาดโอกาสได้ประตูที่ห้า หลังอีการ์ดี้ ผ่านบอลให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดวลเดี่ยวกับ สตีฟ ม็องด็องด้า ก่อนอดีตหอกโมนาโกจะยิงหลุดกรอบออกไปเอง และเป็นแอ็คชั่นสุดท้ายของ เอ็มปั๊ปเป้ ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกโดยส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงมาเล่นแทน ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม
จบเกม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดบ้านไล่ถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย ยับเยิน 4-0 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เกย์ลอร์ นาวาส – โกแล็ง ดักบา (เลอันโดร ปาเรเดส น.61), ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), เพรสแนล คิมเพมเบ้, ฆวน เบร์นาต – อันเดร์ เอร์เรร่า (ปาโบล ซาราเบีย น.79), มาร์กินญอส, มาร์โก แวร์รัตติ – อังเคล ดิ มาเรีย, เมาโร อีการ์ดี้, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (เอดินสัน คาวานี่ น.71)
โอลิมปิก มาร์กเซย สตีฟ ม็องด็องด้า (กัปตันทีม) – บูน่า ซาร์, ดูเย่ ชาเลต้า-ชาร์, บูบาการ์ กามาร่า, ฮิโรกิ ซากาอิ – วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์, เควิน สตรอทมัน, มักซิม โลเปซ (จอร์แดน อมาวี่ น.46) – วาแลร์ แชร์กแมง (มอร์กกาน ซ็องซง น.82), ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ (มาร์เลย์ อาเก้ น.80), ดิมิทรี ปาเยต


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรนัลโด้ เปิดใจได้ขับเคี่ยวกับ เมสซี่ ทำให้ฝีเท้าพัฒนาเก่งขึ้น

อาห์เหม็ด ฟาธี จะหันหลังให้ทีมชาติ หากยกปลอกแขนกับตันให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

อาริตซ์ อาดูริซ กองหน้า แอธเลติก บิลเบา ประกาศเลิกเล่นหลังจบฤดูกาล 2019-2020